Overall Score 9/10
Taste 4.5/5
Ambiance 3/5
Service 4/5
Value 5/5
Yakiniku Rising - Japanese Buffet Yakiniku Restaurant on BuMRes.com
ช่วงนี้ร้านเนื้อสไตล์ญี่ปุ่นก็ผุดตัวกันขึ้นมามากมายเหลือเกินนะครับ ซึ่งถ้าเอาจริง ๆ ร้านประเภทปิ้งย่างนี่ก็จะแบ่งได้ 2 แบบ แบบ บุฟเฟ่ต์ราคากลาง ๆ 400 - 600 บาทที่จะเน้นเจาะลูกค้าคนไทย หรือลูกค้าส่วนใหญ่ กับอีกแบบที่จะเป็นแบบ a la carte ไปกินทีนึงก็จะหมดกันประมาณคนละ 1,000 บาทโดยประมาณ ซึ่งแบบหลังนี่จะเจาะกลุ่มพวกลูกค้าญี่ปุ่นเป็นหลัก แต่กับร้านที่เป็นบุฟเฟ่ต์และกล้าตั้งราคาเน็ทแล้ว 1,100 บาทล่ะ? เท่าที่ผมรู้คือไม่เคยมีร้านแบบนี้มาก่อนในกรุงเทพ จะมีที่เคยเจอมาและแพงที่สุดก็คือร้าน Godzilla @ ทองหล่อ 18 ที่ตอนนี้เจ๊งหรืออะไรไม่ทราบเปลี่ยนเป็นร้าน Kintarou เป็นเนื้อย่างแบบ a la carte แทนไปแล้ว
ร้านเนื้อย่างบุฟเฟ่ต์นามว่า Yakiniku Rising ณ Nihonmachi ที่กล้าตั้งราคาถึง 1,100 บาทแบบนี้ เค้ากล้าตั้งราคาสูง ก็แสดงว่าเค้าต้องมีของดีครับ คือจริง ๆ แล้วร้านนี้เค้าจะมีบุฟเฟ่ต์ 3 ราคา 599 , 799 , 999 ซึ่งแต่ละอย่างก็ถ้าเพิ่มราคาก็จะกินของดี ๆ ได้มากขึ้นตามราคาที่จ่ายไป และราคานี้ก็จะมีบวก service charge อีก 10% และก็ไม่รวมเครื่องดื่มด้วย ซึ่งตัวรายการอาหารในบุฟเฟ่ต์นี้ผมขอพูดถึงตัว 999 เป็นหลักละกันเพราะมันก็ครอบคลุมถึง option อื่นหมด รวมถึงเป็น option ที่ผมเลือกกินในรีวิวนี้ และเป็น option ที่ทุก ๆ โต๊ะที่ผมเห็นในวันที่ไปกินก็สั่งแบบนี้กันหมด รายการอาหารที่มีเฉพาะในแบบ 999 บาทและผมว่าเด็ด ก็จะมี เนื้อญี่ปุ่นซี่โครงพิเศษ (shimofuri wagyu karubi) , เนื้อญี่ปุ่นสันนอกพิเศษ (Shimofuri wagyu rosu) , ซี่โครงแกะ (Lamb chop), ปูทาราบะ (Taraba kani) และ หอยเชลล์ญี่ปุ่นฮอกไกโด (Hokkaido hotate) คือแค่ 5 อย่างเนี้ย ถ้าไปสั่งตามร้านอื่น ๆ แบบ a la carte จานนึงก็หลายร้อยบาทเข้าไปแล้วล่ะครับ แต่นี่เราสามารถกินแบบ buffet ได้! ส่วนอาหารรายการอื่น ๆ ก็มีครบครัน หรือเรียกได้ว่าเยอะกว่าร้านบุฟเฟ่ต์เนื้อย่างอื่น ๆ ก็ว่าได้ครับ รวม ๆ แล้วรายการอาหารถ้าสั่งแบบ 999 บาทนี่จะมีให้เลือกสั่งถึง 67 รายการเลยทีเดียว!
มื้อนี้แน่นอนครับ พวกผมจัดหนักจัดเต็มมาก ที่สั่งเยอะ ๆ ก็จะเป็นพวกเนื้อ premium 2 แบบที่พิมพ์ไปในย่อหน้าก่อนหน้าซะมาก สั่งไปสัก 30 - 40 จานได้ คืออาจจะฟังเหมือนเยอะจัด แต่คือร้าน Yakiniku Rising นี่เค้าจะให้มาแต่ละจานค่อนข้างเล็กครับ คืออย่างเนื้อจานนึงก็มีแค่ 4 ชิ้นเล็ก ๆ แค่นั้น อย่าง Lamp chop ก้มีแค่ 2 ชิ้น อะไรแบบนี้ คือรวม ๆ แล้ว เจ้าเมนูที่อยู่ในแบบ 999 บาทนี่คุ้มและอร่อยมากครับ เนื้อวัวลายสวยงาม หินอ่อนแทรกตัวแทบจะทุกอณู เนื้อกินแล้วละลายในปาก, ซี่โครงแกะก็นุ่ม อร่อยแบบ อร่อยกว่าร้านเสต็กบางร้านด้วยซ้ำ อร่อยจนตกใจเลยล่ะ, ปูทาราบะก็เนื้อแน่น เนื้อนุ่ม ๆ หอม ๆ หวาน ๆ กินแล้วเพลินเป็นบ้า, หอยเชลล์ญี่ปุ่นก็ตัวโต กินแล้วสะใจดี (แต่แอบไม่ค่อยสดเท่าไร)
พวกอาหารอย่างอื่น ๆ นั้นผมว่าก็อร่อยดี และใช้ของคุณภาพดีหมดเช่นกัน ไม่ว่าจะกุ้งก้ามกรามที่ตัวใหญ่จนเกือบจะเป็น size กุ้งแม่น้ำที่ขายตามร้านกุ้งเผาในบ้านเรา, คอหมู ที่ลายไขมันสวยงามยังกะเนื้อวากิวและเนื้อเด้งอร่อยมาก, ปลาไข่ที่ตัวใหญ่ และมาอยู่เรื่อย ๆ , ซี่โครงหมูหมักมิโซะ รสชาติดี เค็ม ๆ เหม็น ๆ แบบหอม ๆ อร่อยดี และไส้กรอกญี่ปุ่นที่แบบ อร่อยได้มาตรฐานเจ้าไส้กรอกพริกไทย arabica ตามสไตล์ร้านเนื้อย่างญี่ปุ่นมาก ๆ พวกผักทั้งหลายทั้งปวงในมื้อนี้ก็อร่อยหมดครับ ไม่ว่าจะผักยำ 3 อย่างเกาหลี, กิมจิที่มาแบบรวม ๆ หลายชนิด ทั้งผักกาด, แตงกวา, หัวไชเท้า ซึ่งแต่ละอันรสชาติดีหมด และยำสาหร่ายที่เพื่อนผมที่ไปด้วยกันชอบมากสั่งกันไปสัก 7 ถ้วยได้
แต่ใน 67 อย่างที่ว่ามานี้ แน่นอนครับก็มีอะไรที่ fail แทรกตัวอยู่เช่นกัน อย่างแรกเลยคือ ข้าวสวย กับข้าวกระเทียม ข้าวไม่ค่อยร้อน รสชาติยังไม่ค่อยดี ไม่เหมือนกับข้าวสวยของบางร้านซึ่งแบบ ร้อน ๆ อร่อยมาก ช่วยเพิ่มรสชาติเนื้อย่างยิ่งขึ้นไปอีก อะไรแบบนั้น, ลำไส้เล็กวัว ที่แบบ มาชิ้นใหญ่ไป ปิ้งจนสุกแล้วก็ยังกินไม่ได้เพราะมันเหนียวไป และถ้าปิ้งจนไหม้ก็จะกลายเป็นกินไม่ได้ไป, ไก่คาราเกะ และ california roll ที่ค่อนข้างพิกลพิการในด้านรสชาติ กินแล้วรู้สึก fail มาก และลิ้นวัวพิเศษ (Tokujo tan) ที่จัดอยู่ในหมวดราคา 999 บาทแต่อร่อยสู้ลิ้นวัวธรรมดาในแบ 599 บาทไม่ได้ -_-'
ร้านนี้ Yakiniku Rising นี่เนื้องจากแต่ละจานจะให้ portion มาน้อย ก็เลยทำให้ต้องมีการสั่งอาหารกันบ่อย ๆ ซึ่งถ้าเป้นร้านบุฟเฟ่ต์อื่น ๆ ที่ผมเคยกินมา มันคงต้องมีการมึนตึง หน้าบูดหน้าบึ้งจากตัวพนักงานบ้างแล้ว แต่กับตลอด 1.30 ชม.ที่เป็นช่วงเวลาจำกัดในการกินกับร้านนี้นั้น น้อง ๆ พนักงานทุกคนบริการดีมาก ไม่มีแสดงอาการหลุด ขาดผึงทางด้านสติมาให้เห็นหรือได้ยินเลยแม้แต่น้อย อาหารอาจจะมีบางอย่างช้าไปบ้าง (บางอย่างช้ามาก) แต่ก็ไม่มีรายการไหนตกหล่นจากที่สั่งไป , ตะแกรงกับถ่านก็คอยเติมและคอยเปลี่ยนให้อยู่เรื่อย ๆ แน่นอนครับ การบริการอาจไม่เลิศเท่าร้าน yakiniku แบบ a la carte แต่เทียบกับร้าน buffet ทั่ว ๆ ไป Yakiniku Rising @ Nihonmachi แห่งนี้ผ่านเลยล่ะ
สรุปแล้ว มื้อนี้ผมกับเพื่อนตัวอ้วน 2 คนกินกันมีความสุขมากครับ อาหารทุกอย่างโดยเฉพาะเจ้าเนื้อลายหินอ่อนสวยงามนี่มันเป็นอะไรที่อร่อยสุด ๆ จริง ๆ และกับราคา 1,100 บาทที่เสียไปนั้น ผมว่ามันคุ้มมากจริง ๆ ซึ่งผมว่าลูกค้าหลาย ๆ คนที่ไปในวันนั้นก็คงคิดแบบเดียวกันกับผม เพราะแบบแต่ละโต๊ะนี่จัดเต็มจัดหนักกันมาก ๆ กินกันจนครบเวลาทุกคน และขนาดผมกลับตอนประมาณ 3 ทุ่มแล้วก็ยังมีลูกค้าที่เพิ่งมาเริ่มกินก็ยังมี ใครกำลังมองหาเนื้อวากิว หรือเนื้อญี่ปุ่นชั้นดีกิน แต่ไม่อยากไปหมดตังค์กับร้านแบบ a la carte ที่ส่วนใหญ่เนื้อดี ๆ จะเริ่มต้นกันจานละ 500 บาทขึ้นไปแล้ว ผมแนะนำร้าน Yakiniku Rising แห่งนี้เป็นอย่างมากเลยล่ะครับ แต่ระวังไว้อย่างครับ ระวังจะกินเยอะจนเกินพิกัด calories ที่เหมาะสมแบบผมและเพื่อน ๆ ! (หลังกินเสร็จ น้ำหนักขึ้นไป 2 โลได้ครับ รวม ๆ เบียร์ที่กินด้วย -_-")
ปล. จริง ๆ มื้อนี้กะจะให้ความอร่อยเต็มล่ะครับ แต่พอดี เนื้อวากิวมันไม่ค่อยคงเส้นคงวาเท่าไร มีบางจานเหมือนตัดไม่ดี หรือยัง thaw มาไม่ดีก็ไม่ทราบ
--------------------------------------------------------------------------------------------------------
Feel free to leave a comment and you can also contact me via channels below.
http://www.bumres.com
http://www.facebook.com/BumRes
admin@bumres.com
ร้านอาหาร
No comments:
Post a Comment